การเลือกทำเลเปิดร้านสเต๊ก
สเต๊กเป็นอาหารจานด่วนที่ไม่แตกต่างจากการเปิดร้านอาหารทั่วไป ทำเลของร้านสเต๊กให้เน้นไปที่ย่านชุมชน ตลาดนัด ใกล้แหล่งสถานศึกษา สถานที่ทำงาน แหล่งบันเทิงต่างๆ หรือย่านที่มีคนพลุกพล่าน จะมีโอกาสขายได้ดีกว่า สำคัญคือเราต้องโฟกัสสเต๊กที่เจาะกลุ่มตลาดระดับกลางถึงล่าง เพราะมีปริมาณลูกค้ามหาศาล และเข้าถึงได้ง่าย สัมพันธ์กับการตั้งราคาที่ควรอยู่ระดับไม่เกินจานละ 60 บาท ส่วนใหญ่ใช้กลยุทธ์เลข “9” เช่น 39 บาท 49 บาท 59 บาท เป็นต้น ในปัจจุบัน สเต๊กไม่ใช่อาหารระดับสูงที่คนไทยเข้าไม่ถึง เดี๋ยวนี้มีสเต๊กในราคาง่ายๆ และอิ่มอรอ่ยไม่ต่างจากสเต๊กระดับพรีเมี่ยม แถมยังซื้อง่าย รับประทานง่ายไม่ยุ่งยากและมีคุณค่าทางโภชนาการ ในการเลือกทำเลเปิดจึงต้องคำนึงถึงคุณภาพให้เหมาะสมกับราคา รวมถึงการบริการ ความสะอาดต่างๆ ต้องสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากที่สุด
เปิดร้านสเต็ก เมนูอาหารที่ควรมี เมนูหลักๆ ที่ขาดไม่ได้ในร้านสเต็กก็คือ สเต็กหมู ไก่ เนื้อ ส่วนทีโบน ส่วนพอร์คชอป และเมนูเครื่องเคียงอื่นๆ อย่างสลัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสลัดไก่ หมู ปลา กุ้ง ปูอัด รวมไปถึงเฟรนช์ฟรายส์ นักเก็ต ขนมปัง ไส้กรอก และซุป ในส่วนของวัตถุดิบสเต็กที่เอามาทำในต่ละเมนูนั้น
หากเป็นร้านที่เป็นรูปแบบเเฟรนไชส์ก็สามารถซื้อวัตถุดิบจากแฟรนไชส์ที่หมักและแร่มาเป็นชิ้นๆ แล้ว สามารถนำมาทอดได้เลย แต่หากเป็นร้านที่เปิดเองก็สามารถซื้อวัตถุดิบได้จากตลาดหรือแหล่งขายส่งวัตถุดิบต่างๆ ในราคาถูกได้ ซึ่งร้านที่เปิดเองก็จำเป็นจะต้องมีสูตรต่างๆ อย่างสูตรน้ำเกรวี่ สูตรในการหมัก หรือสูตรน้ำสลัด เป็นต้น
อุปกรณ์สำคัญในร้านสเต๊กและงบประมาณการลงทุน (แบบเปิดด้วยตัวเอง)
ไม่จำเพาะตายตัวว่างบการลงทุนจะอยู่เท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับขนาดร้านและการตกแต่ง รวมถึงทำเลก็เป็นตัวแปรในการกำหนดต้นทุนเบื้องต้น หากเริ่มต้นแบบร้านขนาดเล็กริมทาง ที่นั่งประมาณ 10-15 โต๊ะ คำนวณงบประมาณเบื้องต้นประมาณ15,000-20,000 บาท ก็สามารถเปิดร้านได้แล้ว โดยอุปกรณ์หลักคือ เตาสเต๊ก 3,000-5,000 บาท โต๊ะ (ราคาแล้วแต่แบบที่เลือก) โต๊ะวางจาน โต๊ะวางของ 2 ตัวยาว ตัวละ 800-1,200 บาท เก้าอี้ (ราคาแล้วแต่แบบ) ร่มชายหาด(250-300) +ขา(300-400) ถ้าขายในร้านที่มีหลังคาก็จะประหยัดส่วนนี้ไป มีดสเต๊ก โหลละ 270-300 บาท จาน ใบละ 15-20 บาท หลอดไฟ ห้อยร่ม อื่นๆ เช่น กระทะทอดเฟรนซ์ฟราย ใช้แบบธรรมดา 150-200 บาท กระทะทอดปลา ถาดใส่เนื้อ ขวดซอส ส้อม เป็นต้น
ต้นทุนของวัตถุดิบ / ต้นทุนต่อจาน
ในส่วนของต้นทุนวัตถุดิบ หากไม่ต้องซื้อวัตถุดิบจากแฟรนไชส์ แต่สามารถทำวัตถุดิบเองได้ ต้นทุนจะถูกมาก อย่างเช่น หมู ต้นทุน 17-20 บาท/ชิ้น ไก่ต้นทุน 10-15 บาท/ชิ้น พอร์คช็อพต้นทุน 35 บาท/ชิ้น ปลาดอลลี่ต้นทุน 22 บาท/ตัว เนื้อ ต้นทุน 35-40 บาท/ชิ้น เป็นต้น ด้วยต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำ จึงสามารถขายในราคาถูกได้และมีกำไรที่สูง ต้นทุนต่อจาน (เป็นราคาโดยประมาณ ราคาแท้จริงขึ้นอยู่กลไกตลาด) หมูสันคอ หมูสันนอก กก.ละ 125-150 บาท(ส่ง-ปลีก) หั่นได้ 7 ชิ้น ราคาขาย 50-60 บาท เนื้อสัน กก.ละ 190-220 บาท หั่นได้ 6 ชิ้น ราคาขาย 70-80 บาท อกไก่ กก.ละ 70-90 บาท หั่นได้ 10 ชิ้่น (1 อกผ่ากลางได้ 2 ชิ้น) ราคาขาย 50-60 บาท(กำไรดีแต่คนกินน้อย) ทีโบน (กก.ละ 400 บาท ทีโบนโคธรรมดา กก.ละ 370 บาท ) ขาย 160-170 บาท พอร์คช็อป ชิ้นละ 35-40 บาท ขาย 70-80 บาท ปลาดอลลี่ ตัวละ 25 บาท ปลาย่างขายตัวละ 60-80 บาท ปลาทอด(คลุกเกล็ดขนมปัง) 1 ตัวหั่นครึ่งได้ 2 ชิ้น ขายชิ้นละ 5060 บาท เบคอน 1 ถุง 200 บาท เยอะแยะมากมาย กำไรดีมาก ขาย 5 ชิ้น 60 บาท ไส้กรอก-หมูรมควัน อันละ 50 บาท ขาย 80 บาท ผักสลัด เฟรนซ์ฟราย ขนมปังและส่วนที่แต่งบนจาน ต้นทุนต่อจาน 5 บาท
ทั้งนี้ราคาเบื้องต้นที่กล่าวไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าต้องเป็นราคานี้ แค่ประมาณการและทำให้เห็นข้อมูลในภาพรวมเบื้องต้นของคนที่อยากเปิดร้านสเต๊กด้วยตัวเองว่าโครงสร้างโดยรวมเป็นทิศทางไหน ซึ่งการลงทุนเองเราต้องเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่เริ่มเอง สร้างชื่อเสียงของแบรนด์ด้วยตัวเอง แต่หากลงทุนซื้อแฟรนไชส์เราจะมีทีมงานที่คอยสนับสนุนทั้งการเปิดร้าน และวัตถุดิบต่างๆ ก็ถือว่าประหยัดเวลาในการเริ่มต้นได้มากขึ้น ไม่อยากยุ่งยาก เลือกลงทุนแฟรนไชส์สเต๊ก ง่ายกว่า! สำหรับการลงทุนกับแฟรนไชส์ก็เป็นอีกทางเลือกของคนอยากเริ่มต้นเปิดร้านแบบรวดเร็วและก้าวไปสู่รายได้ที่ไม่ต้องมานับจากหนึ่ง อุปกรณ์ วัตถุดิบ การบริหารจัดการ ชื่อเสียงของแบรนด์ เราสามารถต่อยอดจากแฟรนไชส์ที่ลงทุนได้ทันที ปัจจุบันมีแฟรนไชส์สเต๊กมากมายที่ให้เลือกลงทุน เช่น
เจฟเฟอร์ สเต๊ก งบประมาณในการลงทุนประมาณ 5,000,000 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดร้าน การตกแต่ง และทำเล)
นาเนีย สเต๊ก งบประมาณในการลงทุน 25,000 – 100,000 บาท
โชกุน สเต๊ก ฟรีค่าแฟรนไชส์ (จ่ายแค่ค่าอุปกรณ์) มีแพคเกจชุดโปรโมชั่นตั้งตัว ราคา 11,900 บาท
ทั้งนี้การจะเลือกลงทุนในแบบตัวเองหรือแฟรนไชส์ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่าน ทั้งการลงทุนเองหรือแบบแฟรนไชส์ต่างก็มีข้อดี ข้อเสียในตัวเองด้วยกันทั้งนั้น สำคัญคือไม่ว่าจะเลือกลงทุนแบบไหน ถ้าไม่ตั้งใจ ไม่เอาใจใส่ ไม่ทุ่มเทให้กับการลงทุน ต่อให้แบรนด์ดีแค่ไหน ทำเลดีอย่างไร โอกาสประสบความสำเร็จก็จะน้อย ตรงกันข้ามหากตั้งใจ และทำจริง แม้เป็นร้านสเต๊กเล็กๆ ริมทางก็มีโอกาสขยายเป็นร้านใหญ่มีกำไรได้มากขึ้น
See more at: http://www.thaismescenter.com/เทคนิคเปิดร้านสเต๊ก-แบบไม่ต้องซื้อแฟรนไชส์/